การตรวจสุขภาพประจำปี

Posted by เคล็ดลับดูแลสุขภาพ เกร็ดความรู้เรื่องสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ



เรื่องที่หลายคนมองข้ามจนอาจก่อให้เกิดผมเสียตามมาภายหลัง ที่จริงเรื่องการตรวจสุขภาพนี้เป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้เลยสำหรับทุกเพศทุกวัย เพราะฉะนั้นเราควรเอาใจใส่ต่อสุขภาพตนเอง ซึ่งจะช่วยให้ลดอัตราการเสี่ยงการเกิดโรคต่างๆ ที่ไม่พึงปรารถนา ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนไม่ต้องการมันอย่างแน่แท้ การตรวจสุขภาพประจำปีมีรายการตรวจและระยะเวลาของการตรวจที่แตกต่างกันตามความจำเป็นของร่างกายแต่ละคนดังนี้


  1. นัดแพทย์หรือสถานพยาบาลให้เรียบร้อย แน่นอนว่าการจะทำอะไรก็ต้องทำการนัดหมายให้เรียบร้อยเพื่อให้ได้มาซึ่งความพร้อม ในกรณีนี้ก็เช่นกันควรนัดแพทย์และพร้อมเอกสารเพื่อการส่งตรวจก่อนวันมาสถานพยาบาล
  2. เลือกวิธีการตรวจที่เหมาสม ในส่วนนี้ก็ต้องเลือกให้เหมาะสมกับร่างกายเราในขณะนั้นพร้อมทำประวัติเลือกโปรแกรมที่เหมาะสมกับเพศ อายุ หน้าที่การงาน ฐานะ
  3. การตรวจขั้นต้น ก่อนอื่นก็ต้องทราบข้อมูลเกี่ยวกับตัวเองว่ามีน้ำหนัก ส่วนสูง ความดันโลหิต เท่าไหร่ เป็นต้น
  4. การตรวจอย่างละเอียด ตรงนี้ก็เป็นขั้นตอนในการพบแพทย์เพื่อให้ตรวจสอบสภาพร่างการรวมถึงความผิดปกติของร่างกายว่ามีโรคภัตแทรกซ้อนหรือไม่
การขับถ่าย

เป็นอีกกิจกรรมที่ต้องทำทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการเพราะเรากินอาหารเครื่องดื่มเข้าไปทุกวันก็ต้องมีการกำจัดกากอาหารออกเป็นธรรมดา แต่ถ้าหากส่วนนี้มีการผิดปกติจะส่งผลให้ส่วนอื่นๆของร่างกายทำงานผิดเพี้ยนหรือมีผลกระทบได้ทั้งนั้น ดังนั้นจึงต้องดูแลตัวเองให้มีการขับถ่ายปกติดังนี้
  1. รับประทานอาหารให้ตรงเวลา ต้องมีความรับผิดชอบต่อตนเองเพราะถ้าหากละเลยรับประทานอาหารไม่เป็นเวลาอดมื้อกินมื้อนั้นไม่ดีแน่นอนและไม่ควรกินจุบจิบระหว่างมื้ออาหารหลัก เพราะจะทำให้มีการหลั่งน้ำย่อยผิดปกติซึ่งผลที่ตามมาคือ ทำให้ท้องอืด มีการการปวดท้องเนื่องจากอาหารไม่ย่อยก็เป็นได้
  2. ฝึกตนให้ติดนิสัยในการขับถ่าย เมื่อมีอาการปวดปัสสาวะก็ไม่ควรที่จะกลั้นไว้นานเพราะจะทำให้กระเพราะปัสสาวะอักเสบและควรดื่มน้ำให้มากๆเพื่อที่จะให้ปัสสาวะได้ง่ายขึ้น
  3. รับประทานอาหารที่มีเส้นใย เพื่อช่วยให้การขับถ่ายได้ดีขึ้นสำหรับอาหารที่มีเส้นใยเช่น อาหารจำพวกผัก ผลไม้ เป็นต้น
  4. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ข้อนี้สำคัญเพราะนอกจากจะทำให้อวัยวะในส่วนต่างๆของร่างการทำงานได้ดีขึ้นแล้วยังช่วยให้ร่างการแข็งแรง ไม่มีโรคภัยมาเบียดเบียน
  5. การดื่มน้ำ แล้วต้องดื่มในปริมาณเท่าไหร่ถึงจะพอดีหรือเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย คำตอบอย่างที่ทุกคนรู้ดีกันอยู่แล้วคือ วันละ 8 แก้ว เป็นอย่างต่ำ
  6. สืบเนื่องจากข้อ 2 หากมีความผิดปกติเกิดขึ้นต่อระบบขับถ่ายควรรีบหาทางแก้ไขโดยเร็ว โดยอาจรับประทานอาหารที่ช่วยระบบการย่อยอาหาร เช่น ขี้เหล็ก มีฤทธิ์ช่วยระบายอย่างอ่อนๆ หรือจะเป็นเครื่องครัวอย่าง กระชาย กระเทียม กะเพาะ ขมิ้น ตะไครื ขิง พวกสมันไพรไทยนี่แหละจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างราบรื่นไร้สิ่งขวางกั้น
การจัดการกับอารมณ์และความเครียด

พูดถึงความเครียดสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัยแต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะเกิดกับวัยทำงานหรือบุคคลที่มีหน้าที่รับผิดชอบอะไรหลายๆอย่างซึ่งหลายท่านอาจจะยังไม่รู้วิธีทำลายความเครียดให้หายไปก็ลองทำตามคำแนะนำต่อไปนี้ดู
  1. เพิ่มภูมิคุ้มกันความเครียดให้กับตัวเองโดยการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่าไปพึ่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพราะจะให้กลับมาเครียดเหมือนเดิมและยังทวีความเครียดเพิ่มขึ้นมาอีกทางที่ดีหาเวลาว่างออกกำลังกาย เล่นกีฬา หรือฟังเพลงจะดีกว่า สำหรับเพลงก็ควรเลือกฟังเพลงที่สร้างสรรค์ ให้กำลังใจด้วย
  2. แยกแยะให้ถูกระหว่างชีวิตการเรียนหรือการทำงานกับชีวิตส่วนตัว ควรจัดตารางแบ่งเวลาให้ถูกต้อง
  3. สร้างบรรยากาศการพูดคุยกับเพือนฝูงเรื่องที่เป็นบวกและหลีกเลี่ยงเรื่องที่จะนำพาไปสู่ความเครียด
  4. อย่าเก็บกดระบายออกมาบ้างก็ดีโดยหาคนที่ไว้ใจพูดคุยเรื่องคับข้องใจให้ฟัง เช่น พ่อแม่ ครูอาจารย์
  5. อย่าให้ตัวเองเหงาเศร้าหมองโดยการหางานอดิเรกที่ตัวเองชอบทำ
  6. หรือหาทางออกโดยการเข้าวัดฟังธรรม นั่งสมาธิก็อาจทำให้ความเครียดลดลงหรือหายไปได้
    ฝึกการควบคุมอารมณ์ตนเองให้อยู่หมัดโดยการหายใจเข้าลึกๆ 

Related Post



แสดงความคิดเห็น